วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558

ศัลยกรรมปาก

ศัลยกรรมปาก ทำปากบาง ปากกระจับ แต่งริมฝีปาก 

ปากกระจับ

การศัลยกรรมปากในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก มีดารานักร้องหลายๆท่านไปศัลยกรรมเพื่อให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ดูเย้ายวลเซ็กซี่น่าหลงไหล เช่นไปทำปากบาง หรือ ทำปากกระจับ บางรายไปเสริมเนื้อริมฝีปากให้ดูเต็มขึ้น อวบอิ่ม ใช้เวลาทำน้อย อีกทั้งค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก ซึ่งริมฝีปากที่สวยนั้น ริมฝีปากบนจะต้องบางกว่าริมฝีปากล่างครึ่งนึง ปากจะต้องเป็นทรงกระจับ ทำให้รูปปากดูเข้ากับรูปหน้าการศัลยกรรมปากต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญเนื่องจากต้องใช้ความปราณีตและฝีมืออย่างมากเนื่องจากมีความละเอียดอ่อนมากเนื่องจากบริเวณปากมีเส้นประสาทและเลือดมาหล่อเลี้ยงจำนวนมาก จึงต้องใช้ความเชี่ยวชาญอย่างมากซึ่งทางเอเซียคลินิกคุณหมอของเรามีประสบการณ์มามากกว่า 10,000 รายท่านจึงมันใจได้เลยว่ารูปปากของท่านจะออกมาอย่างสวยงามได้รูปแน่นอน
ขั้นตอนการผ่าตัดริมฝีปากขั้นตอนการผ่าตัดริมฝีปากทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง1.แพทย์จะเริ่มด้วยการฉีดยาชาในบริเวณรอบริมฝีปาก และยานอนหลับชนิดอ่อนเพื่อลดอาการเจ็บ2.แพทย์ระเริ่มตัดริมฝีปากที่เป็นส่วนเกินไปตามแนวของริมฝีปากทำให้ปากบาง3.เย็บด้วยไหมละลายตามแนวที่ตัดไปโดยรอยไหมจะถูกซ่อนไว้ด้านในเหมือนแผลหายไหมก็ะหายไปเนื่องจากเป็นไหมละลายการเติมริมฝีปากในการเติมริมฝีปากนั้นปัจจุบันนั้นมีทั้งวิธีการเติมด้วยสารเติมเต็มหรือการใช้ไขมันของตัวเองฉีดเข้าไป ซึ่งการฉีดนั้นเราแนะนำว่าให้เข้ามาปรึกษาเราที่เอเซียคลินิกก่อน เพราะการฉีดจะได้รับการฉีดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่แนะนำให้ไปฉีดกับหมอกระเป๋าเด็ดขาด

การดูแลรักจากผ่าตัดริมฝีปาก

1.ในช่วง 3 วันแรกควรนอนหมอนสูงเพื่อบรรเทาอาการปวด
2.ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ
3.บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดบ่อยๆ การบ้วนปากนั้นจะช่วยสมานแผลและเป็นการล้างแผลไปด้วยในตัว
4.ห้ามรับประทานอาหารรสจัด
5.เมื่อแผลแห้งสนิทให้ทำการนวดปาก โดยการใช้นิ้วคลึงเพื่อลดการตึงของแผล
6.ขยันทาลิปมันเพื่อให้ปากชุ่มชื่นตลอดเวลา
7.ช่วงเวลา 1 เดือนอย่าฉีกยิ้มบ่อยเพื่อกันแผลฉีก
8.หลีกเลี่ยงกิจกรรมกระทบกระเทือนทุกชนิดเป็นเวลา 2 อาทิตย์


พัฒนาการของปากในช่วงสัปดาห์แรก



พัฒนาการของปากในช่วงเดือนแรก


พัฒนาการของปากในช่วงเดือนที่สอง


พัฒนาการของปากในช่วงเดือนที่สาม



ศัลยกรรมตาสองชั้น


ศัลยกรรมทำตาสองชั้น

 

เกี่ยวกับการศัลยกรรมตาสองชั้น
ดวงตาที่สวยงามถือว่าเป็นเสน่หอีกหนึ่งอย่างที่เพิ่มความมั่นใจในบุคลิกภาพ ปัจจุบันคนไทยนิยมทำศัลยกรรมตาสองชั้นเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีหนังตาชั้นเดียว/ผู้ที่ไม่มีชั้นหนังตา, หนังตาตก, หนังตาปรือเหมือนง่วงนอน เเละหนังตาสองชั้นเเบบหลบใน  สิ่งทั้งหลายเหล่านี้อาจจะเกิดจากพันธุกรรม, เชื้อชาติรวมถึงอายุการทำตาสองชั้นที่สวยงามดูดีน่ามองไม่เพียงเเต่ทำให้ตาโต หรือมีตาสองชั้นเเล้ว ศัลยเเพทย์จะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆ เช่นระยะคิ้วที่ได้สัดส่วน, หางตา เเละตาไม่ลึกมาก จึงเป็นสิ่งสำคัญเเก่คณผู้หญิง เเละคุณผู้ชายที่จำเป็นจะต้องเข้ามาปรึกษาเเพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
วิธีการทำศัลยกรรมตาสองชั้น


         1. วิธีกรีดหนังตา

          เป็นการทำตาสองชั้นที่เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อบริเวณหนังตามากหรือมีไขมันใต้เปลือกตาเยอะ ด้วยวิธีการกำหนดตำแหน่งของชั้นตาที่สวยเหมาะกับรูปตาทั้งสองข้างของแต่ละคน แล้วใช้มีดผ่าตัดกรีดเปิดหนังตาตั้งแต่บริเวณหัวตาไปจนถึงหางตา รวมถึงทำการตัดหนังหรือไขมันออกบางส่วน แล้วเย็บแผลที่กรีดออกให้ติดกัน จะทำให้ดวงตาดูโตขึ้น เนื่องจากเปลือกตาถูกยกขึ้นสูงกว่าเดิมประมาณ 1-2 มิลลิเมตรเลยทีเดียว

         2. วิธีเย็บชั้นตา โดยไม่ต้องกรีดหนังตา

          นับเป็นวิธียอดนิยมและเหมาะกับคนที่มีลักษณะตาชั้นเดียวที่มีไขมันบริเวณเปลือกตาไม่มากและมีหนังตาที่ไม่ตกหย่อนมากเกินไป โดยใช้วิธีเจาะเปลือกตาให้เป็นรูโดยไม่ต้องกรีดตาให้เกิดเป็นแผลยาว แล้วจึงทำการเย็บปมไหมไปตามแนวเส้นที่ได้กำหนดไว้ประมาณ 1-4 จุดขึ้นไป เมื่อทำตาสองชั้นเสร็จเรียบร้อยจะมีอาการช้ำบวมเพียงเล็กน้อย แต่สามารถออกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น เมื่อผ่านไป 1 เดือน แผลจะเริ่มยุบตัวและเปลือกตาจะเริ่มเข้าเป็นตาสองชั้นที่สวยได้รูปมากยิ่งขึ้น

         3. วิธีเย็บเปลือกตาด้านใน

          อีกหนึ่งวิธีการศัลยกรรมที่นิยมทำมานานหลายสิบปี โดยใช้วิธีการกำหนดความสูงของชั้นตาให้เหมาะสมกับแต่ละคนและวัดปริมาณของหนังตาที่จะตัดออก แล้วจึงทำการผ่าตัดหนังตาบนออก ไปพร้อม ๆ กับการนำเอาไขมันบางส่วน จากนั้นจึงเย็บเปลือกตาให้ติดกับกล้ามเนื้อตามแนวชั้นตาของแต่ละคน เหมาะกับสาวสูงวัยที่มีหนังตาเยอะหรือมีหนังตาบนตกมาก ซึ่งวิธีจะช่วยลดปัญหาตาตก ยกดวงตาให้กลมโตสดใสและดูสวยคมชัดมากยิ่งขึ้น แต่จะอยู่ได้นานเพียงแค่ 1-2 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นชั้นตาอาจหลุดหรือผิวหนังบริเวณดวงตาอาจหย่อนคล้อยลงมาเหมือนเดิม

         4. วิธีการดูดไขมัน

          นับเป็นทางเลือกหนึ่งในการศัลยกรรมตาสองชั้นที่เจ็บตัวน้อยกว่าวิธีอื่น ๆ เลยทีเดียว สำหรับการศัลยกรรมตาสองชั้นด้วยการดูดไขมัน โดยการใช้เทคนิคเจาะรูเล็ก ๆ เข้าไปที่เปลือกตาบนประมาณ 4-5 มิลลิเมตร เพื่อเอานำไขมันส่วนเกินออก จากนั้นจึงทำการเย็บหนังตาบนกับกล้ามเนื้อตา ทำให้เกิดเป็นตาสองชั้นและสร้างมิติให้กับชั้นตาดูสวยโดดเด่นได้มากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นวิธีที่ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นและไม่เกิดการบวมช้ำบริเวณหนังตา วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีดวงตาที่มีไขมันมากหรือเนื้อตาที่ค่อนข้างเยอะ และผู้ต้องการทำตา 2 ชั้นให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ

         5. วิธีเลเซอร์

          การทำตาสองชั้นด้วยวิธีการเลเซอร์นั้น จะมีลักษณะที่คล้ายกับวิธีกรีดหนังตาด้วยมีดผ่าตัด แต่การใช้เครื่องมือเลเซอร์นั้นจะช่วยลดการกระทบกระเทือนได้น้อยกว่าและลดอาการบวมอักเสบหลังผ่าตัดได้น้อยกว่าน้ำหนักมือและการใช้มีดผ่าตัด นอกจากนี้การเลเซอร์ตาสองชั้นยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เปลือกตาดูเรียบเนียน สดใส และมีความตึงกระชับมากยิ่งขึ้น


          เอาเป็นว่า สาวหมวยหรือสาว ๆ คนไหนอยากเพิ่มสวยให้กับตัวเองด้วยการทำศัลยกรรมตาสองชั้นดูบ้าง ก็อย่าลืมหาข้อมูลให้ดีก่อนทำและเลือกปรึกษากับศัลยแพทย์ที่น่าเชื่อถือทุกครั้ง เพราะการศัลยกรรมความงามล้วนมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบหรือผลแทรกซ้อนได้ทุกเมื่อ
ผลลัพธ์
     ผลจากการทำศัลยกรรมตาสองชั้นคือคุณจะมีดวงตาที่ดูสดใส และมีจะทำให้ดูตาโตขึ้น เป็นผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ซึ่งจะคงสภาพอยู่เช่นนี้ไปได้หลายปี

วิด๊โอแนะนำ

ทำตา 2 ชั้น ตอนที่ 1




ทำตา 2 ชั้น ตอนที่ 2


วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558

เสริมจมูก (Rhinoplasty )

 

Rhinoplasty

เสริมจมูก เสริมดั้ง ทำจมูก ทำดั้ง

                             

         จมูกถือว่าเป็นอวัยวะที่โดดเด่นที่สุดชิ้นหนึ่งบนใบหน้า ทั้งยังเป็นตัวกำหนดใบหน้าโดยรวมของคุณอีกด้วย หากคุณมีจมูกใหญ่ จมูกก็จะเป็นจุดเด่นโดดออกมาเกินควร หรือหากคุณมีจมูกคด ไม่ได้รูป คุณก็จะขาดความมั่นใจในตนเอง ศัลยกรรมตกแต่งจมูกสามารถปรับขนาด เปลี่ยนรูปร่างจมูกให้คุณดูสวยทุกสวยทุกองศา ศัลยกรรมตกแต่งเสริมจมูกด้วยซิลิโคน กระดูก หรือกระดูกอ่อน เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเดอมาสเตอร์สามารถปรับรูปทรงซิลิโคนคุณภาพสูงให้เหมาะสมกับใบหน้าได้อย่างปลอดภัยเป็นธรรมชาติไม่ดูหลอกตา ทำให้ดูดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้ตัวคุณอย่างเต็มเปี่ยม
 
หลักการในการเลือกผ่าตัดเสริมจมูกให้ได้ผลดี      ควรคำนึงถึงรูปร่างของใบหน้า ความกลมกลืนของใบหน้าส่วนบน ส่วนกลาง และส่วนล่าง (Facial Harmony) ความกว้างของฐาน และปีกจมูก ทั้งหมดนี้มีผลกับลักษณะ ที่จะออกมาตรงกับความต้องการ จึงแนะนำให้มีการวางแผน พูดคุยกับศัลยแพทย์ตกแต่งก่อนการผ่าตัดถึงความเป็นไปได้ และความคาดหวังของการผ่าตัดเสริมจมูก ในกรณีที่ผ่าตัดเสริมจมูกมาแล้วไม่เป็นที่พอใจ ต้องการผ่าตัดแก้ไข แนะนำผ่าตัดเอาแท่งซิลิโคนออก ตัดผังผืดด้านใน และรอให้แผลหายเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อน เมื่อผังผืดด้านในมีความอิ่มตัว (Mature Scar) แล้วการผ่าตัดซ้ำสามารถทำได้ง่าย และปลอดภัย รวมทั้งสามารถประเมินความตึงหย่อน และเนื้อจมูกเดิมได้แม่นยำขึ้น
 
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก1.กระดูกหรือกระดูกอ่อนของตนเองซึ่งส่วนมากจะใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูมาทำเพราะว่ากระดูกอ่อนหลังใบหูร่างกายไม่จำเป็นจะต้องใช้ทำอะไรและอีกรูปแบบนึงคือกระดูกจากซี่โครงซึ่งกรณีนี้จะใช้ในกรณีเกิดอุบัติเหตุมาก กว่ามาใช้ทางด้านความงาม
2. ซิลิโคน เป็นวัสดุมาตรฐานทางการแพทย์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

วิธีการเสริมจมูก


1. ทำความสะอาดบริเวณโพรงจมูก รอบจมูกๆและบริเวณที่จะทำการผ่าตัดให้เรียบร้อย
2. ฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการเสริมจมูกหรือใช้ยานอนหลับที่ออกฤิทธิ์ในระยะสั้นเพื่อคลายความกังวล
3.ทำการแยกเนื้อเยื่อและส่วนต่างๆออกจากัน
4.หลังจากนี้จะเป็นเทคนิคของแพทย์แต่ล่ะท่านซึ่งแต่ละคนจะทำไม่เหมือนกันในการใส่ซิลิโคนเพื่อเสริมเข้าไป
5.ใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมงในการผ่าตัดเสริมจมูก
6.นอนพัก 1 ชั่วโมง พอให้ฤิทธิ์ยาคลายจึงกลับบ้านได้
7.การเสริมจมูกไม่ต้องตัดไหมเพราะใช้เป็นไหมละลาย

การดูแลตัวเองหลังจากการเสริมจมูก

rest
1.เวลานอนควรนอนให้ศรีษะสูงใน 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวมของจมูก
2.ห้ามนอนตะแคงเป็นเวลา 1 อาทิตย์อาจทำให้จมูกผิดรูปได้
3.งดแอลกอฮอลล์ทุกชนิด
4.ลดอาหาร รสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด และของหมักดองห้ามเด็ดขาด
5.ล้างหน้าเบาๆอย่ารุนแรง ให้ใช้สบู่อ่อนล้างเบาๆ ในข่วงวันแรก
6.หลังผ่าตัดจะเกิดแผล ทำความสะอาดด้วยการนำคัตเติ้ลบัตจุ่มน้ำต้มสุกแล้วทำความสะอาด
7.ในการเสริมจมูกนั้นไม่ต้องตัดไหมเพราะในปัจจุบันได้ใช้ไหมละลายในกาารทำแต่ถ้าเป็นการตัดปีกจมูก แพทย์จะนัดมาตัดไหม
8.หลักจากการผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์แพทย์จะทำการนัดตรวจแผล
9.รับประทานยาทีได้มาให้ครบ
10.ไม่ควรใช้ยารักษาแผลเป็นที่แผล
11.หากรู้สึกว่าจมูกเกิดอาการบวมมากว่าปกติหรือมีเลือดออกมาอย่ารอช้าให้มาปรึกษาแพทย์ทันที
12.นำพลาสเตอร์ปิดแผลออกหลังจากวันที่ 3

วิดีโอแนะนำ

เทคนิคเทรนด์การเสริมจมูก
 

 
เสริมจมูกด้วยการฉีด Filler